วันที่ 21มิถุนายน ได้มีพิธีเปิดงานบรรยายและสัมนา “โครงการเรียนรู้ประเทศจีน หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาคเอเชียอาคเนย์” ได้จัดขึ้นที่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ซึ่งงานนี้ได้ร่วมจัดขึ้นโดย ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ โดยท่านอุปทูตเฉินเจียง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ท่านพิทักษ์ จารุสมบัติ รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ และท่านธีรวัช ภรสัมฤทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้เข้าร่วมขึ้นกล่าวเปิดในงานครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีท่านพลเอกวิชิต ยาทิพย์ รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ท่านวิบูลย์ คูสกุล อดีตเอกอัคราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่านหลานซู่หง ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ สื่อสำนักข่าวของไทยและจีน ซินหัวเซ่อ เว็บไซต์สำนักข่าวเหรินหมิน สถานีวิทยุกระจายเสียงระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน เว็บไซต์สำนักข่าวจงซิน สถานีโทรทัศน์ไทย CCTV เป็นต้น แขกผู้มีเกียรติและคณะผู้นำจากหน่วยงานต่างๆของไทยและจีน ตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจจีนตลอดจนผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิม พระเกียรติ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นต้น ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้เกือบ 200 คน
ในงานบรรยายและสัมนา ท่านอุปทูตเฉินเจียง ได้แนะนำแนวคิดในโครงการอันยิ่งใหญ่ของ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” รวมถึงการพัฒนาและความหมายของ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ต่อประเทศจีนและประเทศในแถบนั้น และยังได้กล่าวว่างานบรรยายและสัมนาในครั้งนี้ จะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการตลอดจนประชาชนทั่วไปในประเทศไทย ได้เข้าใจและรู้จักกับโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งทางด้านทฤษฏีและปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้ทั้งสองประเทศเกิดโอกาสใหม่ๆในด้านความร่วมมือ ท่านพิทักษ์ จารุสมบัติ รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ได้กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายจากการร่วมมือกันระหว่างไทยและจีน แนวคิดโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่จัดขึ้นโดยประเทศจีน จะมีประโยชน์ต่อประเทศไทยและประเทศในอาเซียน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคม ตลอดจนโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ก็ได้รับผลประโยชน์จากโครงการอันยิ่งใหญ่ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง เช่นเดียวกัน ท่านธีรวัช ภรสัมฤทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้กล่าวว่า ประเทศจีนและไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี การพัฒนาของจีนไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจหรือสังคม ล้วนมีความหมายอย่างยิ่งต่อประเทศไทย รัฐบาลจีนได้เสนอโครงการ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ส่วนทางรัฐบาลไทยก็ได้เสนอโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก งานบรรยายและสัมนาที่ได้จัดขึ้นครั้งนี้ จะทำให้ทุกๆคน เข้าใจและรู้จักโครงการ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง และโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกได้มากยิ่งขึ้น จนทำให้มีโอกาสร่วมมือกันของทั้งสองประเทศและนำมาเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับทั้งสองรัฐบาลและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพัฒนาต่อไป
ในงานครั้งนี้ วิทยากร นายหวางอวี่จู่ ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานวิจัยยุทธศาสตร์เอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก สถาบันวิจัยสังคมศาสตร์แห่งประเทศจีน ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง กับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาคเอเชียอาคเนย์”โดยได้อธิบายอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับ จุดกำเนิดของโครงการ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ผลประโยชน์ที่ก่อให้เกิดร่วมกันในประเทศที่อยู่ในบริเวณ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”การประชุม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ความสัมพันธ์ระหว่าง“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ในภูมิภาคอาเซียน และเนื้อหาที่เกี่ยวกับการค้นคว้าโอกาสในความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ภายใต้โครงการ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” วิทยากร ดร.คณิต แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้กล่าวในงานภายใต้หัวข้อการบรรยาย “ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ตามโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทยกับโครงการ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ซึ่งได้แนะนำความเป็นมา การวางแผนของโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และได้บรรยายถึงความเป็นไปได้ถึงโอกาสที่โครงการ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จะดำเนินร่วมกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
ในช่วงตอนบ่ายของการจัดงานแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากทั้งไทยและจีนได้ร่วมกันเสนอข้อคิดเห็นภายใต้หัวข้อ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทย ตลอดจนแนวโน้มความร่วมมือขั้นพื้นฐาน เงื่อนไขของความร่วมมือระหว่างไทยและจีน และแลกเปลี่ยนอภิปรายถึงการดำเนินการจัดการแก้ไขอย่างเต็มที่กับการเผชิญหน้าต่อปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ท่านวิบูลย์ คูสกุล อดีตเอกอัคราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าวสรุปออกความคิดเห็นกับงานบรรยายและสัมนาครั้งนี้ เขาชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของไทยและจีน ซึ่งไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งทางด้านศาสนาความเชื่อ ตลอดจนอาณาเขตหรือหมู่เกาะใดๆ คำพูดที่ว่า “ไทย-จีนใช่อื่นไกลพี่น้องกัน” นั้น ได้ซึมซับเข้าสู่ในใจของพวกเราทุกคน ไทยและจีน ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมในขั้นพื้นฐานและเงื่อนไขในด้านความร่วมมือ โดยในขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้เสนอความคิดเห็นภายใต้หัวข้อ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” รัฐบาลไทยมีโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งไทยและจีนมีแนวโน้มในด้านความร่วมมือที่ดี ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลของทั้งสองประเทศจำเป็นจะต้องทำนั่นคือ ยืนหยัดในความร่วมมือ เจรจาหารือด้วยกัน สร้างสังคมและแบ่งปันกัน อยู่บนพื้นฐานในการสร้างความเข้มแข็ง โดยอาศัยความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย และการนำรายการความร่วมมือมาบังคับใช้ได้จริง
บรรยากาศในงานบรรยายและการสัมนาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ นักธุรกิจจากทั้งไทยและจีน เป็นต้นนั้น ทุกๆคน ทุกๆฝ่ายต่างเป็นมิตรและเข้ากันได้เป็นอย่างดี โดยการแลกเปลี่ยนอภิปรายเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และเป็นไปอย่างจริงใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งได้รับผลลัพธ์ที่ดี หลังจากการประชุมในครั้งนี้ ทุกคนเห็นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า งานในครั้งนี้จะมีประโยชน์ในการส่งเสริมแลกเปลี่ยนความคิดทางด้านวัฒนธรรมของประชาชนทั้งสองประเทศจีนและไทย ทำให้พนักงานข้าราชการของรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปของจีนและไทย ได้เข้าใจและรู้จักโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของประเทศจีนมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมต่อความเชื่อมโยงทางจิตใจของประชาชน และทางศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ควรมีการจัดงานประเภทนี้ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มากขึ้น