งานเทศกาลสารคดีและวัฒนธรรมจีนรอบพิเศษ จัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ

วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 งานเทศกาลสารคดีและวัฒนธรรมจีนรอบพิเศษ จัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ คณะครูย์และนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จำนวนกว่า 70 คน เข้ารับชมสารคดีเรื่อง “ซานซิงตุย: อารยธรรมที่สาบสูญ” และเข้าเยี่ยมชม “นิทรรศการศิลปะการตัดกระดาษของจีน” พร้อมสัมผัสกับกิจกรรมวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของจีน เช่น การบรรเลงกู่เจิง-ผีผา การวาดภาพพู่กันจีน และอาหารจีน

คณะครูและนักเรียนได้ลงมือวาดภาพสิริมงคลต่าง ๆ ด้วยพู่กันจีน ตามคำแนะนำของอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการวาดภาพพู่กันจีน เช่น แพนด้า นกสี่เชวี่ย ดอกบัว ฯลฯ ส่วนอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดนตรีประจำชาติจีน 2 ท่าน ก็ได้แนะนำลักษณะพิเศษของเครื่องดนตรี และบรรเลงบทเพลงคลาสสิกที่เป็นที่นิยมทั้งหมู่คนไทยและคนจีน การแสดงอันยอดเยี่ยม บวกกับความเข้าใจเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนด้านดนตรีระหว่างไทย-จีนของอาจารย์ ทำให้นักเรียนได้รับความประทับใจในกิจกรรมครั้งนี้

โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนด้านภาษาจีนและวัฒนธรรมจีนมาโดยตลอด ในปี 2554 นายสี จิ้นผิง ที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในขณะนั้น ได้เยี่ยมชมโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ คณะครูและนักเรียนกล่าวว่า งานเทศกาลสารคดีและวัฒนธรรมจีนรอบพิเศษในครั้งนี้ ทำให้พวกเขาได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน เพิ่มพูนความเข้าใจด้านวัฒนธรรมจีน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาในอนาคตของพวกเขา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้สร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ มากยิ่งขึ้น พร้อมเขียนบันทึกบทใหม่แห่งมิตรภาพไทย-จีน

นายเชว่ เสี่ยวหัว ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนและสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ กล่าวว่า การจัดฉายสารคดีเรื่อง “ซานซิงตุย: อารยธรรมที่สาบสูญ” เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเทศกาลสารคดีจีนในประเทศไทยได้เปิดฉากขึ้นแล้ว ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ จะทยอยจัดฉายสารคดีเรื่องอื่น ๆ ต่อไป นายเชว่ เสี่ยวหัว ยังกล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ จนปัจจุบันครบรอบ 10 ปีนั้น ที่นี่ได้ให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างเยาวชนไทย-จีนมาโดยตลอด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมสัมผัสวัฒนธรรมในครั้งนี้ จะช่วยให้เยาวชนรุ่นใหม่เข้าใจวัฒนธรรมจีนได้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างสองชาติ