
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม วงออร์เคสตราซิมโฟนีแห่งประเทศจีนได้จัดการแสดงสุดยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ กับคอนเสิร์ต “เสียงแห่งมิตรภาพ·ไทย-จีนประสานเสียง ฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน” มอบค่ำคืนแห่งดนตรีสุดประทับใจให้แก่ผู้ชมในท้องถิ่น

งานนี้ได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญเข้าร่วม อาทิ คุณหวัง ฮวน ภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย คุณฉาง ยู่เหมิง อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย คุณสวี่ หลัน ที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย คุณพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยและประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ คุณเลี่ยว เยี่ยนหรู รองผู้อำนวยการวงออร์เคสตราซิมโฟนีแห่งประเทศจีน รองศาสตราจารย์ ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คุณจ้าว ซิน ผู้รับผิดชอบศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ค่ำคืนแห่งเสียงเพลงยังได้รับความสนใจจากผู้ชมหลายร้อยคน รวมถึงกลุ่มนักร้องประสานเสียงจากสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยจีนในประเทศไทยและผู้ที่รักในเสียงดนตรีอีกมากมาย

ในคำกล่าวต้อนรับ คุณจ้าว ซิน ได้กล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณคณะนักร้องประสานเสียงแห่งวงซิมโฟนีแห่งประเทศจีนที่มาร่วมแสดงในครั้งนี้ พร้อมเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศมีความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการศึกษา คุณจ้าว ซินกล่าวว่า ดนตรีเป็นสะพานที่เชื่อมโยงผู้คนข้ามพรมแดนของภาษาและวัฒนธรรม พร้อมแสดงความหวังว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการเฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนและเป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตที่สดใสของทั้งสองประเทศ

ในคำกล่าวต้อนรับ คุณจ้าว ซิน ได้กล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณคณะนักร้องประสานเสียงแห่งวงซิมโฟนีแห่งประเทศจีนที่มาร่วมแสดงในครั้งนี้ พร้อมเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศมีความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการศึกษา คุณจ้าว ซินกล่าวว่า ดนตรีเป็นสะพานที่เชื่อมโยงผู้คนข้ามพรมแดนของภาษาและวัฒนธรรม พร้อมแสดงความหวังว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการเฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนและเป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตที่สดใสของทั้งสองประเทศ

คุณพินิจ จารุสมบัติ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ความสำเร็จในการจัดการแสดงดนตรีประสานเสียงครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทย เมื่อมองย้อนกลับไปถึงการแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างจีนและไทยในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองประเทศจะกระชับความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนฉันมิตรในทุกแง่มุมต่อไปในอนาคต

รศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ รักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒกล่าวว่า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ มีความร่วมมือที่มั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินกิจกรรมแลกเปลี่ยนและความร่วมมือที่หลากหลายในด้านวัฒนธรรม ศิลปะ และการศึกษา การครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒจะยังคงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์และมีส่วนช่วยส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น


การแสดงเปิดฉากขึ้นอย่างงดงามด้วยบทเพลงจีนและไทยจากคณะนักร้องประสานเสียงมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่ขับร้องด้วยพลังและเสียงที่ไพเราะบริสุทธิ์ นำเสนอความสดใสและความมีชีวิตชีวาให้กับค่ำคืนแห่งดนตรีนี้



จากนั้น คณะนักร้องประสานเสียงแห่งวงซิมโฟนีแห่งชาติจีน ได้ขึ้นเวทีอย่างยิ่งใหญ่ เปิดการแสดงด้วยบทเพลงพื้นบ้านอันโด่งดังของชนชาติต่างๆ ในจีน ได้แก่ “乌苏里船歌” (เพลงพายเรืออูซูรี) ของชาวเฮ่อจื้อ, “牧歌” (บทเพลงแห่งทุ่งหญ้า) ของชาวมองโกล, “青春舞曲” (เพลงระบำวัยเยาว์) จากซินเจียง, และ “彩云追月” (เมฆงามไล่จันทร์) เพลงพื้นบ้านอันเลื่องชื่อ ถ่ายทอดเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะดนตรีจีนได้อย่างงดงาม ในช่วงต่อมา คณะนักร้องได้ขับร้องบทเพลงเดี่ยวและประสานเสียงสุดคลาสสิกของจีน เช่น “枉凝眉” (สายตาที่เลื่อนลอย), “采茶舞曲” (เพลงระบำเก็บใบชา), “在水一方” (เธออยู่ริมฝั่งน้ำ) และ “思念” (ความคิดถึง) ซึ่งแต่ละบทเพลงล้วนเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมต่างประทับใจและดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์แห่งเสียงดนตรี


จากนั้น คณะนักร้องประสานเสียงแห่งวงซิมโฟนีแห่งชาติจีน ได้ขึ้นเวทีอย่างยิ่งใหญ่ เปิดการแสดงด้วยบทเพลงพื้นบ้านอันโด่งดังของชนชาติต่างๆ ในจีน ได้แก่ “乌苏里船歌” (เพลงพายเรืออูซูรี) ของชาวเฮ่อจื้อ, “牧歌” (บทเพลงแห่งทุ่งหญ้า) ของชาวมองโกล, “青春舞曲” (เพลงระบำวัยเยาว์) จากซินเจียง, และ “彩云追月” (เมฆงามไล่จันทร์) เพลงพื้นบ้านอันเลื่องชื่อ ถ่ายทอดเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะดนตรีจีนได้อย่างงดงาม ในช่วงต่อมา คณะนักร้องได้ขับร้องบทเพลงเดี่ยวและประสานเสียงสุดคลาสสิกของจีน เช่น “枉凝眉” (สายตาที่เลื่อนลอย), “采茶舞曲” (เพลงระบำเก็บใบชา), “在水一方” (เธออยู่ริมฝั่งน้ำ) และ “思念” (ความคิดถึง) ซึ่งแต่ละบทเพลงล้วนเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมต่างประทับใจและดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์แห่งเสียงดนตรี



การแสดงในครั้งนี้ได้นำเสนอบทเพลงขับร้องประสานเสียงระดับคุณภาพให้แก่ผู้ชมชาวไทย พร้อมทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรมไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น “ดนตรีไร้พรมแดน” คณะนักร้องประสานเสียงแห่งวงซิมโฟนีแห่งชาติจีนได้ใช้บทเพลงและการแสดงอันยอดเยี่ยม ถ่ายทอดเสียงแห่งศิลปะจากจีนสู่สายตาและหัวใจของผู้ชมทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ด้วยมิติทางศิลปะที่งดงาม เสริมสร้างความเข้าใจระหว่างสองประเทศและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น