นิทรรศการ โดย นายเฉาต๋าลี่ จัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน ส่งเสริมและแลกเปลียนวัฒนธรรมไทยจีน ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯและอาร์ทแกลลอรี่ฮว้าไช่ปักกิ่ง จัดขึ้นในวันที่ 26-30 กันยายน ร่วมกันจัดงาน นิทรรศการโดย นายเฉาต๋าลี่ โดยมี ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรมไทย นายหลี เป่ย ไห่ อดีตรองอธิบดีสำนักงานนิเทศสัมพันธ์ นายเฉินเจียง อุปทูตที่ปรึกษาฝ่ายวัฒนธรรมสถานทูตจีน ประธานจากสมาคมชาวจีนจำนวนมากและจิตรกรของไทยเป็นต้นได้ เข้าร่วมพิธีเปิดงานนี้

ตอนเปิดพิธี ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร กล่าวว่า ตั้งแต่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ก่อตั้งขึ้น กระทรวงวัฒนธรรมไทยและศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ก็ก่อให้เกิดความร่วมมือความสัมพันธ์ที่ดี ปีนี้เป็นปีครบรอบของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศครบรอบ 40 ปี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ จัดกิจกรรมต่างๆ เช่นการเขียนพู่กันจีน วาดรูปพู่กันจีน เครื่องปั้นดินเผา เทศกาลหนังจีนและการแสดง เป็นต้น ขอบคุณศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ที่ให้ความสำคัญและทุ่มเท เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรม ชมนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมจีนมากยิ่งขึ้น และขอขอบคุณที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ที่มีส่วนช่วยในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

ผอ. อัจฉรา แข็งสาริกิจ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหอศิลป์ เป็นตัวแทนกล่าวคำปราศรัยว่า ขอบคุณที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพ ได้จัดนิทรรศการนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม กิจกรรมในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับศิลปินอิสระของไทย นักเรียนนักศึกษาสาขาศิลปะ แม้กระทั่งประชาชนทั่วไป ซึ่งทำให้เข้าใจในภาพสีน้ำมันจีน และเป็นแรงบันดารใจในการเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงาน

นายเฉาต๋าลี่ จบการศึกษาจากสถาบันศิลปะกลาง ปัจจุบันเป็นนักเขียนภาพระดับมืออาชีพของสถาบันการศึกษาศิลปะปักกิ่ง และเป็นสมาชิกของสมาคมนักศิลปะจีน ภาพของเขามีเอกลักษณ์ที่แปลกใหม่ สไตล์การวาดรูปของเขาแตกต่างจากต้นตำรับจีนและมีความเป็นตัวของตัวเอง ผลงานที่ที่มีชื่อเสียงของเขาได้แก่ เฟิงเชอเห้อหมอกูหวิน ถันฮวาเอ๋อนี่ และ เสี่ยวโจวเป็นต้น เขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียกับพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ประสบการณ์ในวัยเด็กที่ทำให้เขาได้เรียนรู้วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และได้เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง นิทรรศการในครั้งนี้มีชื่อว่า การระลึกถึงอดีต แสดงให้เห็นว่าผลงานที่จัดแสดงในครั้งนี้ ของศิลปินมียุคสมัยประมาณศตวรรษที่ 50-60ปี ตามหาความทรงจำในวัยเด็กที่มีชื่อว่า ความฝันในสวน นิทรรศการนี้ได้รับการต้อนรับและความสนใจจากประชาชนทั่วไปกับวงการนักศิลปะมืออาชีพ