

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศแห่งประเทศไทยได้จัดพิธีเปิดโครงการ “ค่ายทูตเยาวชนไทย–จีน รู้ราก สานต่อ เพื่อประชาคมไทย-จีนแห่งอนาคตร่วมที่ยั่งยืน”ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทย เผยแพร่วัฒนธรรมดั้งเดิมอันยอดเยี่ยมของจีน และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กลายเป็นพลังใหม่ในการสื่อสารทางวัฒนธรรม ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ภายใต้การแนะนำของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นักเรียน 50 คนจากค่ายทูตเยาวชนไทย–จีน ได้เดินทางมาที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ และเข้าร่วมหลักสูตรสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมจีนอย่างเต็มรูปแบบ เช่น เครื่องดนตรีกู่เจิง การวาดภาพพู่กันจีน ไทเก๊กและอาหารจีน เป็นต้น




ในชั้นเรียนกู่เจิง กลุ่มเยาวชนได้รับคำแนะนำจากครูผู้เชี่ยวชาญ เรียนรู้การเล่นดนตรีจีนดั้งเดิม และรับรู้ถึงความงามของจังหวะเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ในชั้นเรียนวาดภาพพู่กันจีน พวกเขาได้ทดลองวาดภาพพู่กันจีนง่ายๆ เช่น ดอกไม้และสัตว์ตัวเล็กๆ ด้วยมือของตนเอง ได้สัมผัสถึงการใช้พู่กันและแนวคิดทางศิลปะของการวาดภาพด้วยหมึกของจีนจากความเรียบง่าย ในชั้นเรียนไทเก๊ก พวกเขาได้ฝึกฝนท่าไทเก๊กขั้นพื้นฐานตามอาจารย์และชื่นชมความหมายเชิงวัฒนธรรมของปรัชญาจีนดั้งเดิมที่ว่า “ใช้ความนุ่มนวลเอาชนะความแข็งกระด้าง” และในชั้นเรียนอาหารจีน ทุกคนได้ทำเกี๊ยว ชิมเกี๊ยวที่ทำและสัมผัสได้ถึงรสชาติของอาหารจีน




“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นกู่เจิงและทำเกี๊ยวครับ” หนุ่มเยาวชนชาวไทยคนหนึ่งกล่าวกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ เมื่อจบกิจกรรม “ถึงแม้ว่าผมจะศึกษาภาษาจีนและวัฒนธรรมจีนมาบ้างแล้ว แต่ผมไม่เคยเล่นกู่เจิงหรือทำเกี๊ยวด้วยตัวเองเลย ครั้งนี้ผมได้สัมผัสประสบการณ์การรำไทเก๊กและวาดภาพพู่กันจีนด้วยตัวเอง ทำให้ผมเข้าใจวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ”

กิจกรรมในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้เยาวชนชาวจีนและชาวไทยได้สัมผัสเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมอันงดงามของจีนด้วยตนเองเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างกันผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ เยาวชนเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมการสร้างชุมชนจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน ศูนย์ฯ จะยังคงสร้างเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชนจีนและไทย ส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และกระตุ้นการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทยอย่างยั่งยืน
———–END———–
