ประวัติศาสตร์ของภาพวาดถังข่าที่มีมายาวนานนับพันปี ภาพวาดถังข่าเป็นสมบัติล้ำค่าของศิลปะการวาดภาพจีนแบบดั้งเดิม เมื่อวันที่ 26 เมษายน นิทรรศการภาพวาดถังข่า “พริบตาสู่สหัสวรรษ” ภูมิทัศน์ประเทศตามแนวหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งร่วมกันจัดโดยศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ และศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศของจีน ดำเนินงานโดย Beijing Renmei Literary Creation Institute Co., Ltd. จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ คุณอู๋จื่ออู่ อัครราชทูตสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย คุณรักชนก โคจรานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย คุณฉาง ยู่เหมิง อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย คุณเชว่ เสี่ยวหัว ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมและสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คุณ Doje Ceringบรรณาธิการบริหารห้องสมุดหิมาลัยและผู้รับผิดชอบโครงการภาพวาดถังข่านับพันของอาจารย์ปัทมสัมภวะ รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติจากแวดวงการเมือง ธุรกิจ สื่อมวลชน ศิลปะและแวดวงอื่นๆ ของไทย ตลอดจนผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและนักศึกษามหาวิทยาลัยกว่าร้อยคนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
คุณอู๋จื่ออู่ เน้นย้ำในสุนทรพจน์ของเขาว่าภาพวาดถังข่าเป็นงานศิลปะจิตรกรรมที่ชาวทิเบตในประเทศจีนสืบทอดมาเป็นเวลาหลายพันปีและครองตำแหน่งที่สำคัญในโลกแห่งศิลปะการวาดภาพ จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมโยงกันทางภูมิศาสตร์ เป็นญาติที่ดีทางสายเลือดและเป็นพันธมิตรที่มีโชคชะตาร่วมกัน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศเป็นรากฐานทางความคิดที่มั่นคงสำหรับทั้งสองฝ่ายในการกระชับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและส่งเสริมความก้าวหน้ารอบด้านในการก่อสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ร่วมกันระหว่างจีนและไทย หวังว่าศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ จะใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างประโยชน์อย่างเต็มที่ ใช้ความงดงามของวัฒนธรรมและศิลปะเพื่อสร้างเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรมจีนและไทย สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างชุมชนจีนไทยที่มีอนาคตร่วมกัน
คุณรักชนก โคจรานนท์ กล่าวในสุนทรพจน์ว่าภาพวาดถังข่าเป็นศิลปะการวาดภาพโบราณแบบดั้งเดิมในทิเบต ประเทศจีน ภาพวาดเหล่านี้ทำให้คนไทยได้สัมผัสถึงมรดกอันล้ำค่าของวัฒนธรรมดั้งเดิมอันยอดเยี่ยมของจีนและเข้าใจศิลปวัฒนธรรมจีนได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยน ความร่วมมือซึ่งกันและกันและการเรียนรู้ระหว่างอารยธรรม หวังว่าจากผลงานศิลปะในนิทรรศการครั้งนี้จะสามารถกระชับมิตรภาพอันดีงามระหว่างจีนและไทยในฐานะครอบครัวเดียวกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
คุณเชว่เสี่ยวหัว กล่าวว่าการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเป็นวิธีสำคัญในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ในฐานะหนึ่งในรูปแบบที่สำคัญของศิลปะการวาดภาพแบบจีนโบราณ ภาพวาดถังข่าได้แสดงความหมายแฝงของเทคนิคการวาดภาพแบบจีนโบราณและวัฒนธรรมทางศาสนา ช่วยให้คนไทยมีความเข้าใจวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งระหว่างจีนไทย ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีนไทยในวงกว้าง
ศาสนาพุทธแบบทิเบต ถือเป็นระบบหนึ่งของศาสนาพุทธแบบจีน ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 8 ปัทมสัมภวะได้นำพุทธศาสนามาสู่ทิเบต ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการเผยแพร่พุทธศาสนาในทิเบตอย่างเป็นทางการ ทีมงานสร้างสรรค์ของโครงการ “ภาพวาดถังข่านับพันของอาจารย์ปัทมสัมภวะ”ประกอบด้วยจิตรกรมืออาชีพเกือบ 200 คนในประเทศจีน และใช้เวลา 19 ปีในการรวบรวมภาพวาดถังข่าต้นฉบับจำนวน 1,300 ชิ้นให้เสร็จสมบูรณ์ นิทรรศการนี้ยังถือเป็นการจัดแสดงในต่างประเทศครั้งแรกของโครงการ “ภาพวาดถังข่านับพันของอาจารย์ปัทมสัมภวะ” นิทรรศการนี้จัดแสดงผลงานภาพวาดถังข่ามากมายจากประเทศต่างๆ ตามเส้นทางสายไหม ตั้งแต่จีนไปจนถึงเนปาล ไปจนถึงอินเดียโบราณ รวมถึงประเทศไทยในปัจจุบันด้วย แต่ละประเทศมีความหมายแฝงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นลักษณะเฉพาะของประเทศต่างๆ ตามเส้นทางสายไหม
ผู้บรรยายได้อธิบายถึงประวัติศาสตร์และขั้นตอนการสร้างสรรค์ ผลงานภาพวาดถังข่าที่หลากหลายและตีความผลงานภาพวาดถังข่าอย่างละเอียดให้แก่แขกผู้มีเกียรติได้รับฟังในขณะชมนิทรรศการ เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์และการแสดงออกอันละเอียดอ่อนของภาพวาดถังข่าทำให้ผู้ที่ได้รับชมผลงานภาพวาดถังข่าอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกประหลาดใจ ในขณะเดียวกันกิจกรรมในครั้งนี้ยังได้จัดให้มีพื้นที่สัมผัสประสบการณ์การวาดภาพถังข่าแบบโต้ตอบอีกด้วย ผู้ชมมีส่วนร่วมในการคัดลอกภาพวาดถังข่า เพลิดเพลินกับการคัดลอกภาพวาดถังข่าและสัมผัสถึงเสน่ห์ของศิลปะโบราณนี้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนและไทยได้ยึดตามคำกล่าวที่ว่า “จีนไทยใช่ใช่อื่นไกล เป็นพี่น้องกัน” และ “หัวใจที่เชื่อมโยงกัน” มาเป็นรากฐานสำคัญในการร่วมกันส่งเสริมการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” คุณภาพสูงระหว่างจีน-ไทย และร่วมกันสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนไทย นิทรรศการนี้ได้นำศิลปะการวาดภาพถังข่ามาเป็นจุดเริ่มต้นในการจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและรูปแบบที่หลากหลายของประเทศตามแนวเส้นทางสายไหม ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และการบูรณาการของวัฒนธรรมและศิลปะจากนานาประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรมจีนไทย เสริมสร้างพลังใหม่ๆ ให้กับมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น